โรคหัด

โรคหัด อันตรายที่ไม่ควรมองข้าม

ปัจจุบัน ใน 4 จังหวัดทางภาคใต้ของประเทศไทย กำลังเกิดวิกฤตโรคหัดระบาด สืบเนื่องมาจากประชาชนบางกลุ่มได้รับข้อมูลข่าวสารที่ผิดๆ เกี่ยวกับการฉีดวัคซีน ก่อให้เกิดการต่อต้านวัคซีนและไม่ยอมพาลูกหลานไปฉีดวัคซีนอย่างที่ควรจะเป็น เชื้อไวรัสโรคหัดจึงแพร่กระจาย ทำให้เด็กๆ ในภาคใต้หลายคนต้องทนทุกข์ทรมานกับการติดเชื้อไวรัสโรคหัด หนำซ้ำผู้ป่วยด้วยโรคหัดบางรายในภาคใต้ที่เสียชีวิตไปแล้วก็มี บทความตอนนี้จะพาผู้อ่านไปทำความรู้จักและเข้าใจกับโรคหัด ว่าเพราะเหตุใดจึงเป็นโรคที่อันตรายและสมควรที่จะป้องกันไม่ให้ลูกหลานของเราต้องเป็นโรคนี้

โรคหัด หรือ Measles เป็นโรคติดต่อที่เกิดจากเชื้อไวรัสรูบิโอลา (rubeola virus) ซึ่งสามารถแพร่กระจายและติดต่อผ่านทางอากาศได้ โดยเชื้อไวรัสจะแพร่กระจายออกมาเมื่อผู้ป่วยมีอาการไอหรือจาม นอกจากนี้ยังเชื้อไวรัสยังสามารถแฝงมากับสารคัดหลั่ง เช่น น้ำลายหรือน้ำมูก จากร่างกายของผู้ป่วยได้อีกด้วย โดยเชื้อมีระยะเวลาฟักตัว 9-11 วันโดยประมาณ

อาการของโรคหัดในระยะแรกนั้น ผู้ป่วยจะมีไข้สูง ซึ่งอุณหภูมิของร่างกายอาจสูงได้ถึง 40 องศาเซลเซียสหรือมากกว่า ก่อนจะตามมาด้วยอาการไอ น้ำมูกไหล เยื่อจมูกอักเสบและตาแดงจากเยื่อตาอักเสบ ในวันที่ 2-3 จะพบว่ามีจุดสีขาวขึ้นอยู่ในปากของผู้ป่วยหรือที่เรียกกันว่าจุดค็อปลิก (Koplik’s spot) และในวันที่ 3-5 ผู้ป่วยจะเริ่มมีผื่นขึ้นทั่วทั้งตัว นอกจากจะเป็นเชื้อไวรัสที่แพร่กระจายและติดต่อได้ง่ายมากๆ แล้ว ความอันตรายของโรคหัดที่น่ากลัวอีกอย่างก็คือ โอกาสในการเกิดภาวะแทรกซ้อนของผู้ป่วย ซึ่งมีทั้งภาวะแทรกซ้อนที่ไม่รุนแรงมากไปจนถึงภาวะแทรกซ้อนที่อันตรายถึงชีวิต โดยเริ่มตั้งแต่มีอาการท้องเสีย ตาบอด ปอดอักเสบ หรือสมองอักเสบ ซึ่งโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนเหล่านี้คิดเป็น 30%

ปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาโรคหัดที่แน่ชัด ทำได้เพียงรักษาตามอาการของผู้ป่วยเท่านั้น เช่น ถ้าหากมีไข้ก็พยายามเช็ดตัวหรือรับประทานยาแก้ไข้เพื่อลดอุณหภูมิในร่างกายของผู้ป่วย หากมีอาการท้องร่วงรุนแรงก็ต้องดื่มเกลือแร่เพื่อทดแทนน้ำที่ร่างกายต้องสูญเสียไป โรคหัดนั้นมีโอกาสที่จะหายอยู่ก็จริง แต่กับผู้ป่วยบางรายแล้วนั้นถ้าหากร่างกายมีภูมิคุ้มกันที่ต่ำหรือร่างกายอ่อนแอมากๆ ก็อาจจะต่อสู้กับโรคไม่ไหว ดังนั้น การเข้ารับวัคซีนจึงมีประโยชน์ทั้งกับตัวผู้รับเองและผู้อื่น โดยเพื่อไม่ให้ตนเองนั้นติดโรคและก็เพื่อไม่ให้ผู้อื่นมาติดโรคด้วยนั่นเอง การขอเข้ารับวัคซีนโรคหัด สามารถเข้ารับได้ตั้งแต่อายุ 9-12 เดือน ตามสถานีอนามัยใกล้บ้านหรือโรงพยาบาลทั่วไป โดยการฉีดครั้งเดียวสามารถป้องกันได้ตลอดชีวิต